วงการก่อสร้างในปัจจุบันนิยมเลือกใช้วัสดุปูพื้นที่มีลักษณะเลียนแบบไม้จริงมากขึ้น เพราะให้สัมผัสที่ดีและเกิดความรู้สึกอบอุ่นกับผู้อยู่อาศัย จนในช่วงหนึ่งได้มีการผลิตไม้เทียมหรือพื้นไม้ลามิเนต ที่เป็นไม้อัดผสมกับวัสดุขึ้นรูปอื่น ๆ แต่ก็ยังพบว่าลามิเนตมีปัญหาเรื่องความชื้นและปลวก ทั้งยังมีราคาที่ค่อนข้างแพง ดังนั้นจึงมีการพัฒนาวัสดุปูพื้นที่เป็นพลาสติก 100% มาไว้ใช้งาน ซึ่งมีชื่อเรียกว่า กระเบื้องยาง หรือบางคนเรียกกระเบื้องไวนิลหรือกระเบื้อง PVC
คุณสมบัติเด่นของกระเบื้องยางคือสามารถปูทับพื้นเดิมได้ง่ายดาย แม้แต่คนที่ไม่มีพื้นฐานงานช่างก็สามารถทำเองได้และมีราคาถูกกว่าวัสดุปูพื้นอื่น ๆ ทั้งยังทนทานสามารถใช้งานได้ถึง 10 ปี นอกจากนี้ ยังมีลวดลายสวยงามให้เลือกซื้อมากมาย ไม่ว่าจะเป็นลายไม้ ลายหิน และลายสีพื้น ผู้ที่สนใจจึงควรทำความเข้าใจถึงวิธีการเลือกซื้อกระเบื้องยางแต่ละชนิด ซึ่งเราได้รวบรวมมาไว้ให้แล้วในบทความนี้ พร้อมทั้งแนะนำ 10 อันดับ กระเบื้องยางยอดนิยมที่มีคุณภาพดีในร้านค้าออนไลน์มาให้คุณตัดสินใจและเลือกซื้อ
การเลือกซื้อกระเบื้องยางจำเป็นต้องพิจารณาปัจจัยร่วม ทั้งประเภทของวัสดุ ประเภทการติดตั้ง ความหนาของกระเบื้องยางและประเภทพื้นผิวที่จะปู รวมไปถึงความเรียบและขรุขระของพื้นผิวอีกด้วย ซึ่งแต่ละประเภทจะลงรายละเอียดให้เข้าใจง่ายขึ้น ดังนี้ค่ะ
กระเบื้องยางประกอบด้วยชั้นหลัก ๆ 3 ชั้น คือ ชั้นบนสุด (Wear Layer) สำหรับเคลือบผิวทำหน้าที่ป้องกันความชื้น รังสียูวี และรอยขีดข่วน, ชั้นกลาง (Middle/ Core Layer) เป็นส่วนแกนหลักและยังมีความแตกต่างกันของวัสดุที่เป็นส่วนประกอบ และเป็นที่มาของชื่อเรียกกระเบื้องยางแต่ละประเภท สุดท้ายคือชั้นล่างสุด (ฺBase Later) เป็นส่วนที่จะเสริมความแข็งแรงให้ตัวกระเบื้องและบางชนิดจะเคลือบสารกันเชื้อราด้วย
PVC (Poly Vinyl Cloride) เป็นวัสดุพื้นฐานของกระเบื้องยางในการผลิตยุคแรก ๆ มีให้เลือกทั้งชนิดแบบม้วนและแบบมีกาวในตัว ซึ่งมีคุณสมบัติเด่นเรื่องความยืดหยุ่นและทนทาน แต่ในการใช้งานจริงเมื่อมีการวางของหนักทับนาน ๆ จะทำให้เป็นรอยและไม่สวยงาม ดังนั้นหากต้องการปูพื้นโดยใช้วัสดุชนิดนี้ ควรเลือกปูในห้องที่ใช้งานไม่หนักมาก เช่น ห้องนอน ห้องนั่งเล่น เป็นต้น
การเลือกซื้อควรเลือกจากร้านค้าหรือแหล่งจัดจำหน่ายที่น่าเชื่อถือและต้องมีราคาที่เหมาะสม ไม่ถูกหรือแพงเกินไป ซึ่งราคาของกระเบื้องยางแบบ PVC จะอยู่ระหว่าง 200 - 500 บาท และให้สังเกตว่า หากมีราคาต่ำกว่านี้อาจเป็นไปได้ว่าทางผู้ผลิตเลือกใช้วัสดุรีไซเคิล ซึ่งมีประสิทธิภาพและอายุการใช้งานต่ำกว่า PVC เกรดบริสุทธิ์
LVT (Luxury Vinyl Tile) เป็นวัสดุที่มีคุณสมบัติแข็งแรงและยืดหยุ่นไม่น้อยไปกว่า PVC แต่สามารถรับแรงกระแทกและป้องกันรอยขีดข่วนได้ดีกว่า จึงไม่มีปัญหาเมื่อใช้งานหนัก นอกจากนี้ยังมีลวดลายและสีสันสวยงามคล้ายกับวัสดุต้นแบบ ทั้งยังมีราคาใกล้เคียงกับวัสดุ PVC จึงเป็นที่นิยมใช้งานอย่างแพร่หลาย และมีประเภทการติดตั้งถึง 4 แบบ ดังนั้นในการเลือกซื้อจึงต้องพิจารณาทั้งสภาพพื้นที่จะปูและการใช้งาน ควบคู่ไปกับความหนาและรูปแบบการติดตั้ง จากนั้นจึงเลือกลายตามสไตล์ที่ชอบในงบประมาณที่เหมาะสม
WPC (Wood Plastic Composite) เป็นวัสดุที่ปรับปรุงคุณสมบัติกระเบื้องยางให้มีความแข็งขึ้นมากกว่าทุกแบบแม้ว่าจะมีความหนาเท่ากัน อีกทั้งยังมีลวดลายสวยงามและให้สัมผัสเหมือนไม้จริง ซึ่งช่วยทำให้พื้นบ้านดูหรูหรา แต่ข้อเสียคือมีราคาแพงกว่าวัสดุทุกชนิด ทั้งยังไม่ทนทานต่อความชื้นและปลวก เพราะเลือกใช้วัสดุเป็นผงไม้ผสมพลาสติก ดังนั้นจึงไม่เป็นที่นิยมในการใช้งานปูพื้นห้อง แต่กลับถูกใช้เป็นวัสดุปูทางเดินในรูปแบบไม้เทียมมากกว่า
SPC (Stone Plastic Composit) นวัตกรรมรูปแบบใหม่ที่แก้ปัญหาการหดและเกยกันของกระเบื้องยาง ที่มักพบในวัสดุ LVT และ PVC โดยการใช้หินปูนบดอัดเข้ากับพลาสติก ทำให้มีความคงตัวและแข็งแรง ทั้งยังทนทานต่ออากาศในเมืองไทยที่มีความร้อนสูง ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้กระเบื้องยางเกิดการหดตัว ไม่สวยงาม นอกจากนี้กระเบื้องยางแบบ SPC ยังสามารถใช้งานได้กับพื้นหลายรูปแบบ ทั้งห้องนอน ห้องครัวและห้องน้ำ และสามารถเลือกซื้อได้ง่าย เพราะมีรูปแบบการติดตั้งแบบคลิกล็อกเท่านั้น ผู้ซื้อเพียงพิจารณาที่ความหนาให้เหมาะสมกับสภาพพื้นที่จะปูและเลือกลายที่ชอบให้เข้ากับโทนสีของบ้านก็เพียงพอ
ในการเลือกกระเบื้องยาง นอกจากจะพิจารณาเรื่องของวัสดุแล้ว ยังต้องคำนึงถึงการติดตั้งด้วย เพราะวัสดุแต่ละชนิดจะมีการติดตั้งที่แตกต่างกัน ดังนี้
หน้าที่เข้าชม | 4,236 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 2,820 ครั้ง |
เปิดร้าน | 13 ก.ย. 2564 |
ร้านค้าอัพเดท | 6 ก.ย. 2568 |